ดีท็อกซ์ ช่วยให้การ ลดน้ําหนัก ลดความอ้วน เห็นผลรวดเร็ว และช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิด โรคมะเร็งลำไส้
ไม่ใช่เรื่องที่มองข้ามกันได้อีกต่อไปแล้ว สำหรับคนที่ อ้วนลงพุง หรือผู้ซึ่งมีไขมันสะสมในช่องท้องมากเกินไป ท่านทราบหรือไม่ว่า ไขมันช่องท้อง อันตรายสุดๆ เนื่องจาก ไขมันช่องท้อง สามารถละลายเข้าสู่กระแสเลือดและไปสะสมที่อวัยวะต่าง ๆ และจะเป็นสิ่งที่มาทำร้ายคุณอย่างคาดไม่ถึงเลยก็ว่าได้ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนจำนวนมาก อ้วนลงพุง ไม่ใช่เพราะ ไขมันช่องท้อง เท่านั้น อุจจาระตกค้างในลำไส้ที่มีนับ 10 กิโลกรัม นอกจากเป็นอันตรายต่อคุณแล้ว ยังทำให้ท้องป่อง พุงยื่น อีกด้วย เรารู้กันหรือไม่ว่าอุจจาระตกค้างในลำไส้แต่ละวันนั้นมีมากถึงประมาณ 10 กิโลกรัม ซึ่งอุจจาระที่ตกค้างในร่างกายนี้มาจากอาหารที่เราทานเข้าไปแบบเร่งรีบ, การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดเพียงพอ, การทานอาหารที่มีกากใยน้อย, ทานอาหารที่ย่อยยาก , การทานอาหารที่มีพยาธิหรือเชื้อราที่ทำให้ระบบย่อยอาหารมีความผิดปกติ, การทำงานของระบบดูดซึมเสียเพราะน้ำมันพืชเคลือบในลำไส้ทำให้น้ำที่เราดื่มเข้าไปไม่มีการหมุนเวียน สำหรับการไม่ถ่ายอุจจาระในช่วงเวลาตี 5 ถึง 7 โมงเช้า เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุทำให้อุจจาระตกค้างในลำไส้ทั้งสิ้น ส่งผลให้ลำไส้ทำงานไม่เป็นปกติ จะมีการบีบให้อุจจาระขึ้นไปส่วนบนทำให้อุจจาระขาดช่วง เวลาถ่ายจึงถ่ายออกไม่หมดโดยที่เราไม่รู้ตัว
อุจจาระที่คั่งค้างเหล่านี้จะไปเกาะที่ผนังลำไส้ พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่าก็จะแซงหน้าออกไปก่อน แต่อุจจาระที่ค้างแข็งก็จะยังคงเกาะติดแน่นอยู่ในผนังลำไส้ พอนานๆเข้าก็จะไปกดทับเส้นเลือดต่างๆในกระเพาะและกดทับกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยตามมาได้ เช่น ปวดหลัง ท้องอืด ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อ ที่สะบักและไหล่ อ่อนเพลีย เวียนหัว นอนไม่ค่อยหลับ ทำให้มีอาการของ ไมเกรน ทำให้เป็น ฝ้า และอื่นๆสารพัดโรคที่จะตามมา ดังนั้นหากรักสุขภาพ ต้องการ ลดโรค ต้อง ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ด้วยเพราะปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวทำให้เกิดเป็นสารพัดโรค โดยเฉพาะ ไขมันช่องท้อง อันตรายมาก อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตเลยก็ว่าได้ วิธีลดหน้าท้อง ด้วยการ ดีท็อก ลำไส้ เป็นอีก วิธีลดน้ำหนัก หรือ วิธีลดความอ้วน เป็น วิธีลดหน้าท้อง ที่ได้ผลอีกประเภทหนึ่งที่คุณไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด สำคัญมากจริงๆ
วันนี้ขออนุญาตแนะนำวิธีการ ดีท็อก ลำไส้ เพื่อให้เกิดการขับถ่ายอุจจาระในช่วงเวลา 7 โมงเช้า เป็นเรื่องปกติ ทำให้เราไม่มีของเสียตกค้างในลำไส้ ก่อนที่เราจะพูดถึงวิธีการ ดีท็อกซ์ ลำไส้ เรามาดูประโยชน์ของการ ดีท็อกซ์ ลำไส้ กันก่อนดีกว่า
ประโยชน์การ ดีท็อก หรือทำความสะอาดลำไส้ด้วยวิธีการ ดีท็อกซ์ ลำไส้ หลังจากที่ทราบแลัวว่า ดีท็อก คืออะไร คราวนี้มาดูกันว่าการ ดีท็อกซ์ มีประโยชน์และผลดี อย่างไร
1. ดีท็อก ช่วยทำความสะอาดลำไส้ อุจจาระ แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆจะถูก ชะล้างออกไป ช่วยลดการสะสมสารพิษเหล่านี้ เมื่อสารพิษเหล่านี้ถูกกำจัดออกไปลำไส้จะ สามารถทำงานได้ตามปกติ 2. ดีท็อกซ์ เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ของเสียที่ตกค้างมีผลทำให้ลำไส้อ่อนแอลงและทำ หน้าที่ได้ไม่เต็มที่ การล้างลำไส้จึงเป็นการช่วยส่งเสริม กล้ามเนื้อลำไส้ให้ทำงานได้มากขึ้น โดย ปกติลำไส้มีหน้าที่กำจัดของเสียก็อาจเป็นไปโดยไม่สมบูรณ์ กล้ามเนื้อลำไส้ที่แข็งแรงและทำงานได้ดี อย่างเป็นจังหวะจะช่วยทำให้การผลักดันของเสีย เช่น กากอาหารและ อุจจาระออกจากลำไส้ ได้เร็วขึ้น และไม่เกิดสารตกค้างจนกลายเป็นพิษ ซึ่งหากมีของเสียตกค้างใน ลำไส้ ก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกายของคนเรา นอกจากเป็นอันตรายแล้ว ยังทำให้ หน้าท้องยื่น เหมือนคนอ้วนบางคนจริงๆ ไม่ได้ อ้วน เพราะไขมันช่องท้อง แต่ดูเหมือน อ้วน ก็เพราะสิ่งเหล่านี้ตกค้างในลำไส้ ดีท็อก ให้ประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกาย เช่น ลดน้ำหนัก,ลดความอ้วน,ลดหน้าท้อง,ลดพุง และอื่นๆ อีกมากมาย 3. ดีท็อก ทำให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ เมื่อลำไส้ทำงานอย่างผิดปกติ จะส่งผลให้โครงสร้างและ ขนาดลำไส้เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา การสวนล้างลำไส้ ช่วยให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัว ช่วย ลดอาการบวม หรือโป่งพองของ ลำไส้ อันเนื่องมาจากการที่มีของเสียอุดตันบริเวณนั้นทำให้ ลำไส้ มีรูปร่างปกติตามธรรมชาติ ซึ่งการรักษาทางยา ทานอาหารบางอย่างเฉพาะ บางรายท้องเดินระยะหนึ่งแล้วจะมีอาการท้องผูก อุจจาระแข็ง หรือการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อาจทำให้ลำไส้กลับคืนสู่รูปทรงปกติได้เพียง ระยะสั้นเท่านั้น ดังนั้น ดีท็อก ลำไส้ เป็นวิธีการที่ดีที่สุดเป็นวิธีการทำให้ลำไส้สะอาดและช่วย ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ดั่งคำว่า ลดพุง ลดโรคนั่นเอง
4. ดีท็อกซ์ ช่วยกระตุ้นจุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกายซึ่งอวัยวะทุกส่วนจะมีการ ทำงานเชื่อมต่อกับลำไส้ โดยจุดตอบสนองการ ดีท็อก เป็นการช่วยกระตุ้นจุดที่ว่านี้ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกาย โดยรวม เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ไต ต่อมน้ำเหลืองและการหมุนเวียนของโลหิต เป็นต้น 5. ดีท็อก ช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำ 60-70% การสวนล้างลำไส้ ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ ร่างกายโดยรวมจะ สามารถดูดซึมน้ำเหล่านั้นไปหล่อเลี้ยงเซลล์ ต่างๆ เพื่อให้เซลล์เหล่านั้น ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับละลายและเจือจาง เมือกที่สะสมอยู่ในผนังลำไส้ให้ขับออกได้สะดวกขึ้น เมื่อแบ่งตามกลุ่มอาการของโรคต่างๆ การ ดีท็อกซ์ สามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ได้ดังนี้ กลุ่มของโรคทางเดินอาหาร : โรคท้องผูก , โรคลำไส้ระคายเคือง, โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ, อาการท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย, อาการมีกลิ่นปากเหม็น,ลิ้นเป็นฝ้า แผลเปื่อยในปาก กลุ่มของโรคภูมิต้านทาน : โรคภูมิแพ้ , โรคหอบหืด, โรคลมพิษ ผื่นแพ้, ภาวะภูมิต้านทานต่ำ, โรคภูมิต่านทานไวเกินอื่นๆ เช่น รูมาตอยด์ SLE กลุ่มโรคความเสื่อมของร่างกาย : ผิวพรรณเหี่ยวย่น , โรคข้อเสื่อม กลุ่มโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ กลุ่มโรคทางจิตใจ : โรคเครียด ,นอนไม่หลับ,โรคทางกายที่เกิดจากทางใจอื่นๆ
6. ดีท็อกซ์ ช่วยทำให้ ลำไส้ สะอาดซึ่งนอกจากจะทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นเนื่องจากลำไส้ สามารถทำงานได้อย่างปกติ สามารถดูดซึมสารอาหารที่เรารับประทานเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่ แล้ว ยังช่วยในเรื่องอื่นๆ เช่น ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้ดีอีกด้วย ท่านใดที่มี พุงยื่น ก็ สามารถ ลดพุง ได้หรือบางคนเรียก ลดหน้าท้อง นั่นเองสุดแท้แต่ใครจะเรียกอย่างไร
ลักษณะทั่วไปของ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ถือเป็น มะเร็ง ชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยและเป็นสาเหตุแห่งการเสียชีวิตในลำดับต้น ๆ ของผู้ป่วย มะเร็ง ทั้งหมด โดยจากสถิติทั่วโลกพบ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ในผู้ชายเป็นลำดับที่ 4 หรือ 600,000 คนต่อปี ส่วนในผู้หญิงพบเป็นลำดับที่ 3 รองจาก มะเร็งเต้านม และ มะเร็งปากมดลูก และพบกว่า 500,000 คนต่อปี ซึ่ง มะเร็งลำไส้ใหญ่ นับเป็นสาเหตุแห่งการเสียชีวิตในลำดับที่ 4 ของผู้ป่วย โรคมะเร็ง ทั้งหมด รองมาจาก มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งกระเพาะอาหาร สำหรับในประเทศไทยพบ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ในผู้ชายมากเป็นลำดับ 3 รองจาก มะเร็งตับ และ มะเร็งปอด โดยพบประมาณ 9 คน ในประชากร 100,000 คนต่อปี ส่วนในผู้หญิงพบเป็นลำดับ 5 รองจากมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งปอด โดยพบประมาณ 8 คน ต่อ ประชากร 100,000 คนต่อปี
สาเหตุของ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณลำไส้ส่วนปลาย ซึ่งแบ่งออกเป็น มะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วงแรก (colon) และ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนท้าย (rectum) ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุในการเกิดที่แน่ชัด แต่พบว่าอาจมีความสัมพันธ์กับอาหารและสิ่งแวดล้อม โดยการรับประทานอาหารที่ให้พลังงาน ไขมันและน้ำตาลสูง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นสาเหตุของ โรคอ้วน และพบว่าในผู้ที่เป็น โรคอ้วน จะมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มากกว่าคนปรกติประมาณ 1.2 เท่าสำหรับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ คือ ผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปี มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มากกว่า 2 คนขึ้นไป เคยมีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ เคยเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง และการสูบบุหรี่
อาการ อาการ ที่พบในระยะแรกคือมีมูกเลือดปะปนมากับอุจจาระ โดยจะสังเกตได้ว่าอุจจาระมีสีคล้ำ คล้ายสีของเลือดหมู หรือมีลักษณะการถ่ายอุจจาระที่ผิดปรกติออกไป เช่นปรกติไม่เคยท้องผูก ก็ท้องผูก หรือมีอาการท้องผูกสลับกับท้องเสีย นอกจากนั้นอาจสังเกตได้จากขนาดของเส้นอุจจาระที่ลดลงผิดปรกติ หรือมีอาการถ่ายอุจจาระไม่สุด สำหรับในระยะที่รุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นท้อง ท้องอืด ปวดท้อง อาเจียน อ่อนเพลีย และ น้ำหนักลดลง ผิดปรกติ
ข้อสังเกตุว่าเป็น มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือไม่ ปกติแพทย์จะตรวจวินิจฉัยผู้ป่วย มะเร็งลำไส้ใหญ่ แพทย์จะทำการตรวจตรวจหาเลือดในอุจจาระหรือส่องกล้องตรวจ ลำไส้ใหญ่ ซึ่งหากทำการส่องก ล้องแล้วพบว่ามีก้อนเนื้องอก แพทย์จะตัดชิ้นเนื้องอกนั้นมาวินิจฉัยว่าเป็นก้อน มะเร็ง หรือไม่ หากเป็น มะเร็ง ก็จะต้องตรวจอีกว่าอาการของผู้ป่วยอยู่ในระยะใด เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป
การดูแลตนเองหลังการรักษา การดูแลตนเองหลังการรักษา ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปรกติ แต่ควรรับประทานผัก ผลไม้ ให้มาก ๆ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
วิธีการปฏิบัติตนเพื่อป้องกัน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจากสาเหตุของ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนหนึ่งคือ โรคอ้วน เมื่อเป็น โรคอ้วน จำเป็นอย่างยิ่งต้อง ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน โดยด่วนหากท่านรักสุขภาพและรักชีวิตของท่าน อย่ามองข้าม โรคอ้วน โดยเด็ดขาดโดยเฉพาะ ไขมันช่องท้อง อันตรายมาก ท่านผู้อ่านที่ทราบว่าตนเองเป็น โรคอ้วน ก็หา วิธีลดน้ำหนัก หรือ วิธีลดความอ้วน เพื่อ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน โดยด่วน ทั้งนี้ วิธีลดน้ำหนัก,วิธีลดความอ้วน ผู้เขียนได้พยายามรวบรวมจากแหล่งความรู้ต่างๆมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านบนเว็บไซต์แห่งนี้จำนวนหลายบทความอย่างละเอียด มีทั้ง วิธีลดน้ำหนัก,วิธีลดความอ้วน ที่สามารถ ลดน้ำหนัก,ลดความอ้วน หรือแม้กระทั่ง ลดหน้าท้อง,ลดพุง,กระชับสัดส่วน,ลดต้นแขน,ลดต้นขา,ละโพก,ลดเอว,ลดรอบเอว แต่ละวิธีสามารถ ลดน้ำหนัก,ลดความอ้วน ได้จริง มีทั้งวิธีแบบธรรมชาติลักษณะค่อยเป็นค่อยไป หรือ แบบใช้ ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก หรือ ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน ซึ่งสามารถ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ดีจริง ท่านก็เลือกเอาแต่ละวิธีที่เหมาะสมกับตัวของท่านเอง ประการสำคัญคือ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มี ไขมัน และ แคลลอรี่สูง รับประทาน ผัก ผลไม้ มาก ๆ และ ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ ก็จะสามารถหลีกเลี่ยง โรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับ โรคมะเร็งลำไส้ ได้ และแม้ มะเร็งลำไส้ใหญ่ จะเป็นภัยเงียบที่ไม่เลือกเพศและวัย แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการเลือกรับประทานอาหารและการปฏิบัติตนที่เหมาะสม ดังนั้นการดูแลตนเองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณห่างไกลจากโรคร้ายโรคนี้
จากข้อความดังกล่าวข้างต้น ท่านจะเห็นว่าโรคร้ายต่างๆ เกิดจากการดำรงชีวิตประจำวันของเราทั้งนั้น เมื่อคุณรับประทานอาหารเข้าสู่ร่างกายแล้ว ก็จะมีสิ่งสกปรกส่วนหนึ่งตกค้างในร่างกายเพราะร่างกายไม่สามารถขับถ่ายออกจากร่างกายได้หมด โดยเฉพาะท่านที่ชอบทานเนื้อสัตว์เป็นประจำ เนื้อสัตว์เป็นอาหารที่ย่อยยากไม่เหมือนอาหารประเภท ผัก ผลไม้ ซึ่ง ผัก ผลไม้ จะมีพวกเส้นใยอาหารสูงหรือไฟเบอร์ ก็จะช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้ง่ายยิ่งขึ้น เป็นการ ดีท็อก ลำไส้ ที่ดี เมื่อลำไส้ได้รัการ ดีท็อกซ์ ก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูดซึมนำเอาสารอาหารไปใช้ประโยชน์ต่อร่างกายได้มากที่สุด ดีท็อก ยังช่วยทำให้การ ลดน้ําหนัก หรือ ลดความอ้วน เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็วอีกด้วย หากคุณรักสุขภาพ รักชีวิต ห่างจากโรค ต้อง ดีท็อกซ์ ลำไส้ จร้า
แนะนำ ผลิตภัณฑ์ ดีท็อก ที่ดีที่สุด ชื่อ Pacio ช่วยลดความเสี่ยงการเกิด โรคมะเร็งลำไส้ และ ดีท็อกซ์ ยังช่วยให้การ ลดน้ําหนัก หรือ ลดความอ้วน เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว อีกด้วย
Commenti