เชื่อเหลือเกินว่าผู้คนจำนวนมากอยากจะรู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็น มะเร็ง หรือเปล่า เรื่องนี้จากหลักการทางการแพทย์ แพย์จะวินิจฉัย โรคมะเร็ง ได้จากการสอบประวัติอาการ การตรวจเช็คร่างกาย ตลอดจนการเอกซเรย์ รวมทั้งการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ ตามอาการของผู้ป่วยหรือตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นการส่องกล้อง และเมื่อมีอุจจาระเป็นมูกเลือดซึ่งผลที่ได้แน่นอนก็คือ การเจาะ ดูด และการตัดชิ้นเนื้อ จากก้อนเนื้อหรือแผลที่ผิดปรกติแล้วนำไปตรวจทางเซลล์วิทยา หรือไม่ก็พยาธิวิทยา เป็นต้น ผลที่ได้จากการตรวจทางการแพทย์จะเป็นจะทำให้เราแน่ชัดว่าตัวเองเป็น มะเร็ง หรือไม่
สำหรับระยะของ มะเร็ง จะคล้ายคลึงกันใน โรคมะเร็งแทบทุกชนิด เช่น - โรคมะเร็ง ระยะที่ 1 ซึ่งโรค/ก้อนเนื้อ/แผลมะเร็งมีขนาดเล็ก ลุกลามอยู่เฉพาะในเนื้อเยื่อ/อวัยวะต้นกำเนิดของมะเร็ง - มะเร็ง ระยะที่ 2 โรค/ก้อนเนื้อ/แผลมะเร็งมีขนาดปานกลาง ลุกลามไม่มากและอาจมีการลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองใกล้เนื้อเยื่อ/อวัยวะที่เป็นมะเร็ง แต่เป็นการลุกลามเพียงเล็กน้อย เช่น ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองเพียง 1 - 2 ต่อม ทั้งนี้ต่อมน้ำเหลืองยังมีขนาดโตไม่เกิน 3 เซนติเมตร เท่านั้น - โรคมะเร็ง ระยะที่ 3 โรค/ก้อนเนื้อ/แผลมะเร็งมีขนาดโตมาก ซึ่งอาจลุกลามเข้าไปลึกถึงเนื้อเยื่อหรืออวัยวะ บางรายลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองใกล้ๆ อวัยวะต้นกำเนิดมะเร็ง โดยลุกลามอย่างมากและมากกว่า 1-2 ต่อม อีกด้วย - มะเร็ง ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นโรคมะเร็งที่มีความรุนแรงของโรคขั้นสูงสุด ซึ่งโดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีโรคลุกลามอย่างรุนแรง ทั้งนี้ยังไม่มีการแพร่กระจาย รวมทั้งกลุ่มที่มีการแพร่กระจายของโรคแล้ว ซึ่ง โรคมะเร็ง ระยะที่ 4 ชนิดที่มีการแพร่กระจาย เป็นระยะที่ มะเร็ง ไม่มีโอกาสรักษาให้หายได้ ถือได้ว่าเป็น โรคมะเร็ง ระยะที่รุนแรงที่สุด แต่ถ้าเป็นระยะที่ 4 แต่ถ้้ายังไม่มีการแพร่กระจายจะมีโอกาสรักษาให้หายได้ แต่ทั้งนี้โอกาสรักษาให้หายนั้นก็มีไม่มากนัก เมื่อเทียบกับ โรคมะเร็ง ระยะอื่นๆ สำหรับโรคมะเร็งระยะที่ 4 นั้น หากเป็นชนิดที่มีโรคลุกลามรุนแรง แต่ถ้าโรคมะเร็งนั้นยังไม่มีการแพร่กระจายซึ่งได้แก่ โรคมะเร็ง ในระยะที่มีการลุกลามโดยตรงอย่างรุนแรงจากก้อน/แผลมะเร็งเข้าเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่อยู่รอบๆ ข้างเคียง เช่น ทำให้เกิดการทะลุของเนื้อเยื่อ/อวัยวะนั้นๆ หรือหากลุกลามรุนแรงเข้าต่อมน้ำเหลืองใกล้อวัยวะต้นกำเนิดมะเร็ง ซึ่งต่อมน้ำเหลืองมีขนาดโตมาก หมายความว่ามีขนาดเกิน 6 เซนติเมตร หรือลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงหลายๆ ต่อม แต่จะยังไม่มีการแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด หรือกระแสน้ำเหลือง
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น โรคมะเร็ง ระยะที่เท่าไหร่แล้ว?
แพทย์ผู้ชำนาญการเรื่องเกี่ยวกับ มะเร็ง จะทำการวินิจฉัยว่าเป็น โรคมะเร็ง ระยะที่เท่าไหร่ ซึ่งแพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการตรวจร่างกายของผู้ป่วยเพื่อประเมินสุขภาพของผู้ป่วย เช่น การสอบถามประวัติอาการต่างๆ ของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจไตและภาวะสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย อีกด้วย รวมทั้งการตรวจร่างกายด้านอื่นๆ เช่น
- เอ็กซเรย์ปอด ซึ่งเป็นการดูการทำงานของปอดรวมทั้งหัวใจ ตลอดจนการแพร่กระจายของ มะเร็ง เข้าสู่ปอดของผู้ป่วยอีกด้วย - แพทย์จะทำการตรวจภาพอวัยวะต้นกำเนิดมะเร็งด้วยการเอ็กซ์เรย์ โดยทำการเอ็กซ์เรย์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือ MRI ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เพื่อดูการลุกลามของก้อนมะเร็ง หรือ แผลมะเร็ง - แพทย์จะทำการตรวจอัลตราซาวด์(Sonogram)หรือแพทย์อาจทำการเอ็กซ์เรย์ตับด้วยระบบคอมพิวเตอร์ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นการดูการแพร่กระจายของ มะเร็ง ที่เข้าสู่ตับของผู้ป่วย - แพทย์จะทำการตรวจกระดูกของผู้ป่วย ซึ่งโดยการสแกนดูกทั้งตัวตามอาการของผู้ป่วย หรือตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ทั้งนี้แพทย์ผู้ชำนาญการเรื่อง มะเร็ง จะดูการแพร่กระจายของ โรคมะเร็ง ที่เข้าสู่กระดูก นั่นเอง - แพทย์อาจทำการตรวจร่างกายส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความแน่ใจและวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำตามอาการของผู้ป่วย หรือตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจทำการส่องกล้อง ตรวจน้ำไขสันหลัง ตรวจไขกระดูกตลอดจนทำการตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ เช่น ทำการสแกนกระดูกหรือเพ็ตสแกน
แนะนำผลิตภัณฑ์
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ดูแลสุขภาพเกี่ยวกับ มะเร็ง เบาหวาน ความดัน และอื่นๆ ขออนุญาตแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชื่อ immo ซึ่ง อิมโม่ อุดมด้วยสารสกัดจากงาดำ ซึ่งมี เซซามิน สูงกว่าผงงา 200 เท่า ให้ประโยชน์ทั้ง สุขภาพ และ ผิวพรรณ รวมทั้ง เบต้ากลูแคน ดูแลสุขภาพเรื่อง มะเร็ง แกมม่า ออไรซานอล สูงกว่า น้ำมันรำข้าว 7 เท่า รวมทั้ง โคเอนไซม์ คิวเท็น ดีต่อสุขภาพของ หัวใจ และ หลอดเลือด
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม อีกชนิดที่ควรใช้คู่กับ immo คือ Nutrigen Orange ( Multi Enzyme )จะทำให้เห็นผลลัพธ์ดีมากยิ่งขึ้น Nutrigen Orange เป็น เอนไซม์ มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่งร่างกายมนุษย์ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ หากขาด เอนไซม์ มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องมี เอนไซม์ หากไม่มี เอนไซม์ ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้นั่นเอง Nutrigen Orange Multi Enzyme เป็น เอนไซม์ ที่ดีที่สุดในโลก ดังนี้ - เป็น เอนไซม์ สกัดบริสุทธิ์ 17 ชนิด ในรูปแบบผงไลโปโซม ดูดซึมผ่านใต้ลิ้น - Nutrigen Orange Multi Enzyme ผ่าน อย.ว่าเป็น เอนไซม์ หนึ่งเดียวในโลก - นูทริเจน ออเรนจ์ มัลติ เอนไซม์ ระบุปริมาณ เอนไซม์ ชัดเจน - Nutrigen Orange Multi Enzyme เข้มข้นกว่า เอนไซม์ ยี่ห้ออื่น ถึง 3 - 4 เท่า - นูทริเจน ออเรนจ์ มัลติ เอนไซม์ ง่ายกว่า สะดวกกว่ายี่ห้ออื่น ไม่ต้องชงน้ำร้อน แค่ฉีกซองเทลงใต้ลิ้น - Nutrigen Orange Multi Enzyme ใช้ปริมาณในการบริโภคน้อยกว่า ถูกกว่ายี่ห้ออื่น อนึ่ง ในการเสริม เอนไซม์ สดจากพืชเป็นการสกัด เอนไซม์ สดจากพืช เพื่อช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร ซึ่ง Nutrigen Orange เป็น 1 เดียวในโลกที่เรียกได้ว่าเป็น เอนไซม์ ที่ดีที่สุดในโลก
Comments