ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด แท้ที่จริงในการ ลดน้ำหนัก สิ่งที่สำคัญยิ่งก็คือการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายถ้าคุณใช้บริการสถานบริการที่ต้องเสียค่าคอร์ส ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน แต่คุณยังคงกินประเภทตามใจปากล่ะก็ คุณก็ไม่มี ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้อย่างแน่นอนมีแต่อ้วนกับอ้วนเท่านั้นที่จะมาเยือนคุณ การกินอาหารควรใส่ใจให้มากที่สุด ควรคิดคำนึงถึงเรื่องสุขภาพด้วย ไม่ใช่ของอร่อยๆก็ฟาดเข้าไปเต็มพุง กินแบบนั้นอ้วนกันแน่ๆ ลองพิจารณาตัวเราเองว่าเป็นคนที่มีนิสัยการกินแบบนี้หรือไม่
1.เวลาทานอาหารก็กินเร็ว เคี้ยวเร็ว ราวกับว่ารีบๆ เข้าไว้
2.กินคำใหญ่ และกินเยอะๆเข้าไว้ เรียกว่าเผื่อไว้มื้อต่อไป
3.นั่งดูทีวีไปหยิบอาหารใส่ปากไป แบบนี้ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าอ้วนแน่ๆ
4.ชอบกินอาหารประเภททอด ของหวาน มิหนำซ้ำกินบ่อยครั้งด้วย
5.เป็นคนประเภทเสียดายของกิน เห็นอาหารเหลือในจานเป็นต้องกินให้หมด
6.เห็นอาหารวางขายน่ากินทั้งนั้น ซื้อมาคราวละเยอะ เมื่อนำมากินก็ต้องกินให้หมด
7.กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มสักที ก็เลยต้องกินเรื่อยๆ
8.อาหารอร่อยจังเลย ถูกปากมากๆ อ้าวกินให้เต็มพุงไปเลย หากเรากินอาหารแบบข้างต้น บอกคำเดียว โรคอ้วน ถามหาแน่แท้เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพเลย ด้วยสังคมที่เร่งรีบในปัจจุบันบางทีทำให้ลืมเรื่องอาหารกินกินที่ดีต่อสุขภาพ ลืมออกกำลังกายพอรู้สึกตัวอีกที คิดได้ก็เมื่อคุณล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลเมื่อถึงคราวนั้นคุณจะรู้ว่าเรื่องสุขภาพมันสำคัญมาก บอกกันตรงๆ ถ้าหากคุณไม่อยากเป็นคนที่มีรูปร่างอ้วนเหมือนหมูล่ะก็ คุณต้องปรับปรุงพฤติกรรมการกินเสียใหม่ คิดถึงเรื่องสุขภาพให้มากที่สุด ที่สำคัญอย่าลืมเรื่องการออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้คุณ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้อย่างเห็นผลลัพธ์ที่ดี คุณก็จะมี หุ่นดี หุ่นสวย ไม่อายใครแน่แท้
วิธีการปรับปรุงพฤติกรรมการกิน ใครๆก็ทำได้ไม่อยากเลย เช่น
1.คุณต้องตั้งใจอย่างจริงจัง ก้มดูตัวคุณเพื่อกระตุ้นใจตัวเองสักหน่อยก็ดี ถ้าอยาก ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ต้องตั้งใจจริงๆ มองดูตัวเองในกระจกเห็นตัวเองอ้วนคุณจะไม่ตั้งใจเลยรึ 2.ต้องพยายามควบคุมอาหารการกินให้ได้ อย่ากินจนเกินความจำเป็น ไม่ใช่อิ่มแล้วก็พยายามกินให้หมด โดยเฉพาอาหารมื้อเย็นควรเป็นอาหารเบาๆ พยายามเน้นอาหารประเภทผัก ผลไม้ และหากเป็นไปได้อย่าทานอาหารหลังเวลา 18:00 น. เพราะช่วงเย็นหรือกลางคืนร่างกายใช้พลังงานน้อย หากเราทานเข้าไปและร่างกายใช้พลังงานไม่หมดก็จะไปสะสมในร่างกาย ทำให้อ้วนได้ง่าย 3.หลีกเลี่ยงอาหารที่จะทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เช่น อาหารประเภทไขมัน เกลือ ของหวาน ควรทานอาหารประเภทผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีเส้นใยอาหารจะมีประโยชน์ต่อการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน มากที่สุด 4.พยายามฝึกตนเองให้กินอาหารช้าลง เคี้ยวช้าๆ อย่ารีบเร่ง จะช่วยให้คุณทานอาหารช้าลงได้ค่ะ 5.เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้ออาหารครั้งละมากๆ เนื่องจากเวลาคุณเห็นอาหารวางอยู่ คุณก็จะมีความรู้สึกอยากชิม อยากกิน หากกินบ่อยๆ ก็จะทำให้คุณอ้วนในที่สุด จะทำให้เกิดปัญหาในการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน กระทำได้ยากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก 6.ขณะทานอาหารอย่าเปิดดูทีวี หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นควบคู่กับการทานอาหาร เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ ดูมือถือ ขณะคุณดูทีวี หรือทำอย่างอื่นควบคู่ขณะคุณทานอาหารจะทำให้คุณรู้สึกเพลินมือก็หยิบอาหารใส่ปาก คงไม่ต้องบอกผลที่ตามมาว่าอ้วนหรือไม่ นี่ก็อีกหนึ่งสาเหตุของการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน อีกเหมือนกัน 7.ก่อนกินอาหารถามใจตัวเองสักนิดว่า คุณหิวหรือไม่ หรือเพียงแค่อยากชิม อยากรู้รสอาหารแค่นั้น หรือแค่เหงาปาก หากเป็นเช่นนั้นแนะนำให้ทานผลไม้แทนดีกว่าจะได้ไม่ทำให้คุณอ้วน คุณก็จะ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้อย่างมีประสิทธิผลอีกด้วย 8.อย่าเป็นประเภทเสียดายของ เห็นอาหารเหลือในจานเป็นต้องกินให้หมด ประเภทนี้ก็มีน๊ะเห็นกันบ่อยๆ อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด อ้วนค่ะ อ้วนแน่ๆ เพราะครั้งคราวไหนทีทานอาหารคุณก็จะเป็นประเภทกินให้หมด แล้วอย่ามาพูดว่า ลดความอ้วน หรือ ลดน้ำหนัก ไม่ได้ผลเลย จะได้ผลยังไงล่ะกินซะขนาดนั้น 9.บรรดาคนที่รักสวยรักงาม หุ่นดี หุ่นสวย ทั้งหลายก็ทราบกันดีว่าอาหารที่ช่วยให้ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้ดีที่สุดก็คืออาหารที่มีกากใยอาหารหรือเส้นใยอาหาร เช่น พืช ผัก ผลไม้ ดังนั้นควรเลือกกินอาหารที่มีเส้นใยสูงและมีกากมากๆ จะดีต่อ การ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้ผลลัพธ์ดีมาก เมื่อเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารตามคำแนะนำทั้ง 9 ข้อแล้ว เราเชื่อมั่นว่าการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ของคุณจะได้ผลลัพธ์ดีอย่างแน่นอน หลายคนคงสงสัยว่าในเมื่อกินแต่อาหารประเภทที่มีเส้นใยอาหารจะไม่ทำให้ขาดสารอาหารหรือไม่ ไม่เป็นโรคขาดอาหารแน่นอนค่ะ ต่อไปเราขออนุญาตแนะนำวิธีการกินอาหารสุขภาพดีอย่างไร เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมัน
หลายคนเข้าใจว่าถ้าต้องการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ควรจะลดอาหารจำพวกคาร์โบเดรต พวกแป้ง และข้าว จึงพากันอดข้าวกันยกใหญ่ ความจริงแล้วตัวการสำคัญที่ทำให้คุณมีปัญหากับเรื่อง ความอ้วน ไม่ใช่เพียงแค่อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต หรือ แป้ง เท่านั้น แต่เป็นอาหารประเภทไขมันด้วย โดยเจ้าไขมันให้พลังงานแก่ร่างกาย 9 แคลลอรี่ ในปริมาณ 1 กรัม ทั้งๆที่คาร์โบไฮเดรตให้พลังงาน 4 แคลลอรี่ ในปริมาณเท่ากัน และยังเผาผลาญอาหารได้เร็วกว่าไขมันอีกด้วย บางคนเข้าใจผิดว่าการกินข้าวทำให้อ้วน บอกตรงๆ มันเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับไขมัน การกินข้าวทำให้เราอิ่มเร็ว แต่ไม่เหมือนกับไขมันน๊ะ กินเท่าไหร่ก็รู้สึกท้องไม่ค่อยเติมเต็มสักทีกินได้เรื่อยๆ ว่างั้นเถอะ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณอ้วน บอกตรงๆ ว่ายากมากหรืออาจไม่ได้ผลเลยหากคุณไม่หลีกเลี่ยงการกินไขมัน
ไขมันมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรกินน้อยลง กินอย่างไร?
เราสามารถหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันได้ หากรู้จักเลือกกินสักนิดก่อนกินอาหารควรดูฉลากอาหารว่ามีส่วนประกอบของไขมันมากน้อยแค่ไหน แต่หากเห็นว่ามันยุ่งยากก็ลองทำตามเราดู ดังนี้
1.อาหารประเภททอด ควรหลีกเลี่ยง รู้หรือไม่น้ำมันที่ใช้ทอดอาหารนั้น แม่ค้าไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ น๊ะจ๊ะ เผลอๆ อาจเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิด โรคมะเร็ง อีกด้วย แถมได้ โรคอ้วน มาอีกต่างหาก ซึ่งหากจะพูดในแง่ของ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน อาหารประเภททอด ควรหลีกเลี่ยงไม่งั้น คุณคงไม่มี หุ่นดี หรือ หุ่นสวย แน่แท้
2.ถ้าทำอาหารกินเองควรใช้น้ำมันถั่วเหลือง หรือน้ำมันมะกอกแทน จะดีที่สุด
3.ใส่ใจสักนิดก่อนกินอาหารควรอ่านฉลากอาหารว่ามีไขมันเป็นส่วนประกอบหรือเปล่า ควรกินอาหารที่มีไขมันต่ำ จะเป็นประโยชน์ต่อคุณในเรื่องสุขภาพและหากคุณจะ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ก็จะทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
4.อาหารประเภทเนื้อสัตว์มีไขมันสูง จึงควรกินเนื้อสัตว์บริเวณที่ไม่มีไขมันสะสม เช่น อกไก่ แต่ไม่ควรกินหนังสัตว์ชนิดนั้น
5.หากคุณต้องการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ควรกินอาหารประเภท ปลา แทนการกินเนื้อสัตว์เพราะปลามีไขมันต่ำกว่าเนื้อสัตว์
6.หลีกเลี่ยงพวกขนมปังทาเนย มายองเนส สลัดน้ำข้น
7.เลือกอาหารที่เขียนตรงฉลากว่าไขมันต่ำ จะเป็นผลดีต่อสุขภาพของคุณและเป็นผลดีต่อการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน อย่างได้ผลค่ะ
8.ขนมอาหารใส่กะทิ ให้กินขนมหวานน้ำหวานแทน แต่หากเป็นไปได้ไม่กินซะดีกว่า กินแล้วก็ทำให้คุณอ้วน เผลอๆ ได้ โรคอ้วน เป็นของแถมอีก มีไขมันพอกตับ อีก คุ้มไหมล่ะ อาหารประเภทไขมัน ของทอด และอื่นๆตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น มีผลต่อการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน เป็นอย่างมากหากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีก แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้กินแต่น้อย จะทำให้คุณสามารถ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน และออกกำลังกายด้วย จะทำให้คุณมี หุ่นดี หุ่นสวย อย่างแน่นอน
ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ด้วยโปรแกรมการลดน้ำหนักที่เหมาะกับรูปร่างของคุณ ก่อนทำการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน พิจารณาดูรูปร่างตัวเองสักนิดก็จะเป็นประโยชน์ต่อคุณ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่า ตามเรามาเลย คุณมีรูปร่างแบบแอปเปิ้ลหรือเปล่า
รูปร่างแบบผลแอปเปิ้ลหรือรู้จักกันอย่างเป็นทางการว่า รูปร่างMesomorphs นี้มีเพียงร้อยละ 10 เป็นรูปร่างของนักกีฬาคือโครงการกระดูกที่หนาใหญ่และแข็งแรง ช่วงไหล่กว้าง ลำตัวใหญ่ มีกล้ามเนื้อที่แขนและขาช่วงบริเวณคอ หน้าอกและหน้าท้องค่อนข้างหนา กระดูกเชิงกรานเล็ก ช่วงเอวไม่มีส่วนโค้งเว้ามากนัก เมื่อสังเกตุดูรูปร่างแล้วจะคล้ายตัว V แต่หากรักษารูปร่างได้ดีหุ่นก็คล้ายกับหุ่นนาฬิกาทรายหรือทรงเลข 8 ทำให้รูปร่างเป็นผู้หญิงมากขึ้นปริมาณอาหารที่เหมาะกับคนที่มีรูปร่างแบบแอปเปิ้ล
ประเภทอาหาร ปริมาณเสิร์ฟต่อวัน
ขนมปัง ข้าว ซีเรียล ก๋วยเตี๋ยว พาสต้าที่ขัดสีน้อย 2 - 3
ผัก 3 - 5
ผลไม้ 2 - 4
เต้าหู้ นมถั่วเหลือง เนย โยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 - 2
เนื้อสัตว์ไร้ไขมัน ปลา ไข่ ถั่ว 2 - 3
ไขมัน น้ำมัน น้ำตาล เกลือ 1
จากตารางปริมาณอาหารนี้เป็นไกด์ไลน์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ตลอดจน ควบคุมน้ำหนัก ให้คงที่โดยปริมาณในอาหารแต่ละประมาณได้ทำการศึกษาแล้วว่าไม่ทำให้ผู้ที่ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน อ่อนเพลียและหิวบ่อยโดยคุณสามารถนำปริมาณอาหารจากตารางไปทำการดัดแปลงในการกินอาหารแต่ละมื้อโดยเฉลี่ยๆ ปริมาณที่พอเหมาะ
ทีเด็ดในการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ที่คนรูปร่างแอปเปิ้ลต้องรู้ 1.คนรูปร่างแอปเปิ้ลต้องเน้นการกินอาหารแบบมังสาวิรัติคือกินพวก ผัก ผลไม้ ปลา เต้าหู้ แต่ก็กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไร้ไขมันหรือไขมันต่ำได้ในบางครั้ง ไม่ใช่ไม่กินเลยเดียวขาดสารอาหารจะยุ่งเอา ประเภทได้แบบหนึ่งเสียอย่างหนึ่งแบบนั้นไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ 2.อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต แป้ง ควรทานแต่น้อย ควรหันไปกินอาหารประเภทข้าวกล้อง 3.ก่อนจะกินอาหารกลางวันควรเว้นช่วงห่างประมาณ 4 ชั่วโมง และอาหารมื้อเย็นควรเว้นช่วงจากอาหารกลางวัน 6 ชั่วโมง ว่ากันว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกินอาหาร 4.อาหารประเภทเนื้อสัตว์เราก็รู้กันดีว่าจะมีไขมันสูงซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเราเป็น โรคอ้วน ดังนั้นควรลดการกินเนื้อสัตว์ลง ควรทานปลาแทน แต่ถ้าอยากจะกินเนื้อสัตว์ให้ปรุงด้วยการอบ นึ่ง ย่าง แทนการทอดด้วยน้ำมัน แต่ข้อควรระวังเรื่องการปิ้ง ย่าง ด้วยเพราะการปิ้ง ย่าง มักจะมีสารก่อมะเร็ง ไม่ใช่ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้ดี แต่ไปเจอมะเร็งแบบนั้นก็ไม่คุ้มค่ะ ทางที่ดีที่สุดควร อบ นึ่ง ดีกว่า ปลอดภัยกว่า ค่ะ 5.ควรดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ประมาณ 8 แก้ว ต่อ วัน เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบการเผาผลาญพลังงาน หากจะให้แนะนำแล้วควรน้ำเปล่าดีกว่าเนื่องจาก เครื่องดื่มที่วางจำหน่ายทั่วไปมักจะมีส่วนผสมที่ทำให้รสชาดหวานน่ากินเข้าผสม ซึ่งสารอาหารที่ให้รสหวานก็ทราบกันว่าทำให้อ้วน ดังนั้นแนะนำดื่มน้ำเปล่า วันละ 8 แก้ว เป็นอย่างน้อย ดีที่สุด จะทำให้การ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้ผลดียิ่งขึ้นและมีผลทำให้สุขภาพดีด้วย 6.ควรเพิ่มการรับประทาน ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีเส้นใย กากอาหาร ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้ดีทีเดียว 7.กินอาหารที่มีผลดีต่อตับ ได้แก่ หอมหัวใหญ่ กระเทียม แครอท วอเตอร์เครส ต้นหอม ใบกุยช่าย มีทรุท เป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงรูปร่างแอปเปิ้ล เนื่องจากอาหารเหล่านี้ช่วยบำรุงตับ เพื่อให้ตับได้ช่วยย่อยสลายและชะลอการทำงานของฮอร์โมนสตีรอยด์ที่ผลิตออกมามากจนเกินไป นั่นเอง 8.ไม่ควรกินอาหารที่มีคอลเลสเตอรอลสูง ไขมัน เกลือ แอลกอฮอร์ และเบียร์ แทบไม่ต้องบอกเลยก็ว่าได้ว่าสิ่งที่กล่าวมาล้วนแต่ทำให้อ้วน ดังนั้นจะทำให้เป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงต่อการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน อย่างมาก ดังนั้นหากท่านใดอยากมี หุ่นดี หุ่นสวย ห้ามกินเด็ดขาด
อยากรู้มั้ย ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ให้ได้ 3 -5 กิโลกรัม ใน 1 สัปดาห์ ควรกินอาหารอย่างไร มาดูกันเลย
ประการแรกเลย คุณต้องยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ทำให้ได้ดั่งที่ได้ตั้งใจไว้ อย่าท้อเพราะการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน บอกตรงๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องควบคุมพฤติกรรมการกินของตนเอง พร้อมๆกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ได้ผลของการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน เห็นผลลัพธ์ดี
วันที่ 1
อาหารมื้อเช้า ขนมปังโฮลวีท(ไม่ใช่ขนมปังที่กินทั่วไปสีออกขาวๆ ไม่ใช่น๊ะ)ประมาณ 2 แผ่น ใส่ปลาทูน่ากับพาสเลย์แอปเปิ้ล 1 ผล น้ำสับปะรด 1 แก้ว
อาหารกลางวัน สลัดผักผสมทูน่าและไข่ต้ม 1 จาน น้ำแอปเปิ้ล 1 แก้ว
ของว่างมื้อกลางวัน โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ประมาณครึ่งถ้วย
อาหารเย็น อกไก่ย่าง 2 ชิ้น ส้มตำ 1 จาน มะละกอ 5 - 6 ชิ้น
วันที่ 2
อาหารเช้า ซีเรียลอบกรอบผสมนมไขมันต่ำ 1 ถ้วย ผลไม้รวม 1 ถ้วย น้ำส้ม 1 แก้วอาหารกลางวัน ข้าวกล้อง 1 จาน เต้าหู้อ่อนนึ่งซีอิ้ว(200 กรัม) 1 ชิ้น ฝรั่ง ครึ่ง ลูก
ของว่างมื้อกลางวัน ลูกเดือยต้มน้ำขิง 1 ถ้วย(ไม่ใส่น้ำตาล)
อาหารมื้อเย็น พาสต้าบร็อคโคลี 1 จาน สับปะรด 1 ซึก น้ำแครอท หรือน้ำผลไม้ 1 แก้ว
วันที่ 3
อาหารเช้า โยเกิร์ตไขมันต่ำรสธรรมชาติ 1 ถ้วย เบอรี่สด 1 ถ้วย ชาสมุนไพร 1 แก้วอาหารกลางวัน สลัดผักน้ำใส 1 จาน ปลาย่าง 1 ชิ้น น้ำแครอท 1 แก้ว
ของว่างมื้อกลางวัน ส้ม 1 ผล
อาหารมื้อเย็น สลัดทูน่า ส้มโอเทศ 1 จาน แครอท ดอกกะหล่ำและถั่วลันเตาลวกสุก 1 ถ้วย น้ำสับปะรด 1 แก้ว
วันที่ 4
อาหารเช้า แซนวิสทูน่าใส่มะเขือเทศฝาน 1 ชิ้น สตอเบอรี่ขนาดกลาง 6 ลูก กาแฟหรือ ชา 1 ถ้วย
อาหารกลางวัน ข้าวไข่เจียวใส่หอมใหญ่ 1 จาน น้ำส้ม 1 แก้ว มะละกอสุก 5 -6 ชิ้น
ของว่างมื้อกลางวัน มิโสะ 1 ถ้วย
อาหารมื้อเย็น ยำแตงกวา 1 จาน ส้มตำ 1 จาน ขนมจีนข้าวกล้อง 1 จาน
วันที่ 5
อาหารเช้า นมถั่วเหลือง 1 แก้ว ขนมปังโฮลวีตทาแยม อโวคาโด 2 แผ่น โยเกิร์ตรส ธรรมชาติไขมันต่ำ 1 ถ้วย
อาหารกลางวัน ผัดผักรวมมิตร 1 ถ้วย ข้าวกล้อง ครึ่ง ถ้วย ส้ม 1 ลูก น้ำฝรั่ง 1 แก้ว
ของว่างมื้อกลางวัน ซุปเต้าหู้ 1 ถ้วย
อาหารมื้อเย็น สเต็กปลา 1 ชิ้น ข้าวกล้อง ครึ่ง ถ้วย ผลไม้ตามใจชอบ 2 ถ้วย
วันที่ 6
อาหารเช้า โจ๊กไก่ 1 ถ้วย น้ำเต้าหู้ 1 แก้ว แอปเปิ้ล 1 ลูก
อาหารกลางวัน เกาเหลาผักรวมมิตร 1 ชาม น้ำแตงโม 1 แก้ว แก้วมังกร 4 - 5 ชิ้น
ของว่างมื้อกลางวัน น้ำขิง 1 แก้ว
อาหารมื้อเย็น น้ำพริกจิ้ม ปลาทูนึ่งหรือย่าง 2 ตัว ข้าวกล้อง 1 ถ้วย กะหล่ำปลีและ แครอท ลวก อย่างละ ครึ่ง ถ้วย
วันที่ 7
อาหารเช้า กาแฟหรือชา 1 ถ้วย ขนมปังโฮลวีตทาน้ำผึ้งเล็กน้อย 2 แผ่น น้ำสับปะรด 1 แก้ว
อาหารกลางวัน สลัดมะเขือเทศ ผักกาดแก้ว 1 จาน น้ำฝรั่ง 1 แก้ว แอปเปิ้ลขนาดเล็ก 1 ลูก
ของว่างมื้อกลางวัน เมล็ดทานตะวัน หรือเมล็ดฝักทอง(ไม่อบเกลือหรือน้ำตาล) 1 กำมือ
อาหารมื้อเย็น ต้มยำเห็ดน้ำใส 1 ถ้วย ข้าวกล้อง 1 ถ้วย น้ำผลไม้ 1 แก้ว
อาหารแต่ละวัน แต่ละมื้อ ดังกล่าวข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมอาหารการกินเพื่อไม่ให้ร่างกายรับสารอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อการ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน มากเกินจำเป็น และเพื่อให้การ ลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วน ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิมากที่สุด คุณต้องออกกำลังกายทุกวันอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานและขับของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งจะทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรง คุณก็จะมี หุ่นดี หุ่นสวย อย่างที่คุณปรารถนาได้อย่างแน่นอน
แนะนำ ผลิตภัณฑ์ ลดน้ำหนัก หรือ ผลิตภัณฑ์ ลดความอ้วน และ ดีท็อก
Commenti